เริ่มต้นดูแลตัวเองเสียแต่วันนี้ ก่อนที่จะสายเกินไป |
อาการที่เป็นง่าย แต่หายยาก |
ปัจจัยเสี่ยงอาการปวดร้าวสะโพกลงขา
1. หมอนรองกระดูกเคลื่อน และหมอนรองกระดูกแตกทับเส้นประสาท เป็นสาเหตุที่พบบ่อยที่สุดของอาการปวดสะโพกร้าวลงขา ซึ่งมีอาการปวดที่รุนแรงมาก
2. กระดูกสันหลังที่มีเส้นประสาทไขสันหลังตีบ หรือแคบลง พบมากในผู้สูงอายุ เนื่องจากในขณะที่เรามีอายุเพิ่มมากขึ้น กระดูกจะมีการเสื่อมสภาพตามวัย ทำให้กระดูกตีบ และแคบ สร้างแรงกดดันต่อเส้นประสาท เป็นสาเหตุที่ทำให้เกิดอาการปวดสะโพกร้าวลงขา โดยเฉพาะเมื่อนั่งนานๆ นั่งหลังค่อมหลังงอ จะทำให้แรงกดต่อเส้นประสาทเพิ่มขึ้นมา
3. กระดูกสันหลังเคลื่อน (Spondylolisthesis) กระดูกสันหลังชิ้นใดชิ้นหนึ่งมีการเคลื่อนไปข้างหน้า หรือข้างหลังมากกว่ากระดูกสันหลังชิ้นอื่นๆ ทำให้เกิดความดันในเส้นประสาท
4. เส้นประสาทมีการยึด หรือรั้ง
5. กล้ามเนื้อสะโพกหนีบเส้นประสาท (Piriformis syndrome) หรือ กลุ่มอาการกล้ามเนื้อสะโพกอักเสบเรื้อรังทำให้เส้นประสาทติดอยู่ลึงลงไปในสะโพก ทำให้เกิดอาการปวด
6. สาเหตุอื่นๆ เช่น ข้อเข่าเสื่อม กระดูกหักที่เกิดจากโรคกระดูกพรุน มักพบในผู้สูงอายุ
7. มีอาการปวดสะโพกร้าวลงขาในระหว่างตั้งครรภ์
8. ส่วนสาเหตุที่ทำให้ปวดสะโพกร้าวลงขาที่พบไม่บ่อยนัก เช่น เนื้องอก ลิ่มเลือด หรือฝีไปกดทับเส้นประสาท
9. อายุที่มากขึ้น ทำให้กระดูกสันหลังมีความเสื่อมถอยของความแข็งแรงลง เช่น กระดูกพรุน
10. โรคที่เกี่ยวกับกระดูกสันหลัง เช่น โรคข้ออักเสบ หมอนรองกระดูกเสื่อม เป็นต้น
11. โรคอ้วน เพราะน้ำหนักที่มากเกินไป โดยเฉพาะอย่างยิ่งการมีพุงจะเพิ่มความเครียดให้กระดูกสันหลังมากขึ้น
12. พฤติกรรมการใช้ชีวิต เช่น การนั่งในท่าเดิมเป็นเวลานานเป็นประจำ โดยเฉพาะการนั่งหลังงอ เป็นปัจจัยเสี่ยงต่อการเกิดอาการปวดสะโพกร้าวลงขาและปัญหาอื่นๆ ตามมา
ลดอาการข้ออักเสบโดยไม่ต้องพึ่งยาแก้ปวด
- จิบชาขิง ลดอาการคลายปวดข้อ มีฤทธิ์ช่วยบรรเทาอาการปวด คล้ายกับยาแก้อาการอักเสบ
- กินคลีน ซึ่งประกอบไปด้วยผักสด ผลไม้สด ธัญพืช น้ำมันมะกอก ถั่ว กระเทียม หัวหอมและสมุนไพร
- จิบชาคาโมมายล์ ช่วยลดอาการอักเสบและติดเชื้อ
- กินอาหารที่มีวิตามินซี เพื่อช่วยกระตุ้นการไหลเวียนของเลือด และบรรเทาอาการปวด
- กินกรดไขมัน Omega3 ช่วยลดอาการอักเสบข้อกระดูก อาจมองหารับประจากอาหารเสริมที่มีส่วนผสมของปลาทะเลน้ำลึก
- หลีกเลี่ยงอาหารที่มีผลต่อการสร้างแอนติบอดี้ เช่น นมวัว ไขไก่ ปลาคอด เนื้อหมู ข้าวโพด ข้าวสาลี ส้ม ข้าวโอ๊ด ข้าวไรย์ เนื้อวัว และกาแฟ เพราะอาหารเหล่านี้จะไปกระตุ้นให้ร่างกายผลิตกรดไขมันออกมามากเกินไป ทำให้อาการปาดข้อกำเริบขึ้นได้
- บำรุงร่างกายด้วยCalcium ปริมาณแคลเซียมที่ร่างกายควรได้รับต่อวัน คนทั่วไปประมาณวันละ 1,000 มิลลิกรัม ผู้หญิงในช่วงวัยหมดประจำเดือน ควรรับประทานแคลเซียมวันละ 1,500 มิลกรัม รับประทานปลาตัวเล็กตัวน้อยทอดกรอบ กุ้งแห้ง กุ้งฝอย กะปิ เต้าหู้เหลือง กะหล่ำดอก หรือรับประทานอาหารเสริมเม็ดแคลเซียม
- ประคบร้อน ประคบเย็น เมื่อมีอาการปวดข้อกระดูก มีโรคประจำตัวอื่นๆร่วมด้วยไหม เช่นความดัน(ให้ระวังประคบเย็น เพราะจะทำให้หน้ามืด เวียนศรีษะ) มะเร็ง(หลีกเลี่ยงประคบร้อน) เบาหวาน(ประคบเย็นหรือร้อนนานเกินไม่ดี เพราะมีผลต่อความรู้สึกของผู้ป่วย)
- สังเกตุอาการว่าเป็นแบบฉับพลันหรือเรื้อรัง
- ฟังเพลงเพื่อคลายอาการปวด
****รับประทานอาหารเสริมทีาช่วยในการบำรุงดูแลข้อและกระดูก อย่างเช่น D-BOONE
ปวดคอ สาเหตุของโรคกระดูกคอเสื่อม
การปฏิบัติตัวเพื่อไม่ให้กระดูกคอเสื่อมเร็วเกินไป
ความคิดเห็น
แสดงความคิดเห็น